การสร้างบ้าน สักหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านต้องมีการศึกษาข้อมูล หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสร้างบ้านมาอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยความที่การสร้างบ้านในแต่ละครั้งนั้นมีรายละเอียดมาก ทำให้เจ้าของบ้านดูแลไม่ทั่วถึง จึงทำให้บ้านยังมีข้อบกพร่อง ทั้งนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน หรือตกแต่งภายใน บ้านหลังใหม่ของตัวเองกันอยู่ อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจลงมือทำ เรามาดูจุดบกพร่องของการสร้างบ้านที่คนส่วนใหญ่มักทำพลาด ทั้งนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน หรือตกแต่งภายใน อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจลงมือทำ จนกว่าจะได้อ่านจุดบกพร่องของการสร้างบ้าน ที่คนทั่วไปมักทำพลาดต่อไปนี้
วางแปลนพื้นผิดรูปแบบ
พื้นที่แต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน ทั้งรูปทรง และขนาด ไม่ได้เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมเป๊ะ ๆ เสมอไป ดังนั้นการวางแปลนลักษณะของพื้นควรคำนึงถึงรูปแบบของพื้นที่นั้น ๆ ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่บ้านที่ตกทอดมาจากอดีต ที่ไม่ค่อยจะมีรูปแบบที่ตายตัวเหมือนกับในปัจจุบัน นอกจากนี้การตกแต่งก็ควรจะพิจารณาถึงเรื่องสไตล์ของการตกแต่งแต่ละช่วงเวลาด้วย
วางตำแหน่งห้องไม่เหมาะสม
การวางตำแหน่งห้องต่างๆ ภายในบ้าน ควรนึกถึงลักษณะการใช้งานเป็นอันดับแรก หากเป็นห้องนอน ไม่ควรอยู่ติดพื้นที่ที่มีเสียงและกลิ่นรบกวน อาทิ โรงรถ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นรวม เพราะอาจทำให้นอนหลับไม่สนิท หากเป็นห้องครัว ควรอยู่ด้านหลังของบ้าน เพื่อไม่ให้เสียงและกลิ่นจากการทำอาหารรบกวนมาถึงบริเวณหน้าบ้าน นอกจากนี้ ยังสามารถระบายกลิ่นและควันจากการทำอาหารได้ดีขึ้นด้วย
ไม่ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ
มีบ้านจำนวนน้อยมากที่จะนำแสงจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะบ้านส่วนใหญ่มักจะปกปิดด้านข้างด้วยผนังทึบ หน้าต่างบานเล็ก และมีหน้าต่างน้อย โดยลืมไปว่าแสงจากธรรมชาติเป็นพลังงานที่ดีกว่าแสงจากหลอดไฟฟ้ามากมาย ทั้งในเรื่องของระดับความสว่างที่มากกว่า ในขณะเดียวกันยังทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนน้อยลงด้วย
วางระบบน้ำ/ระบบไฟฟ้าไม่ดี
ถ้าเปรียบบ้านเป็นร่างกาย ระบบน้ำและระบบไฟฟ้าก็เหมือนกันเส้นเลือดที่ช่วยลำเลียงความสะดวกสบายไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน หากวางระบบไม่ดี อาจทำให้ชีวิตประจำวันต้องติดขัดหรืออาจถึงขั้นเกิดอันตรายได้ ระบบไฟฟ้าควรออกแบบโดยวิศวกรที่มีความชำนาญเพื่อให้กำหนดตำแหน่งได้ตรงตามความต้องการใช้สอยและเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เลือกวัสดุพลาด
การสร้างบ้านเหมือนกับการเลือกเสื้อผ้าที่จะดูเฉพาะภายนอกไม่ได้เท่านั้น แต่ควรจะพิจารณาไปถึงเนื้อในด้วยว่า เหมาะสม แข็งแรง ทนทาน และมีความสบายมากน้อยเพียงไร นอกจากนี้หากวัสดุดังกล่าวมีราคาสูงกว่าวัสดุทั่วไป แต่ทว่าเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่คุณต้องการสร้างบ้าน ก็คุ้มค่าที่จะลงทุน โดยพิจารณาจากสภาพพื้นดิน สภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นหลัก
วางแปลนบ้านไม่เผื่ออนาคต
สิ่งที่หลายคนมักพลาดกันเป็นประจำ ก็คือ ต้องการจะต่อเติม แต่ทว่าไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด เพราะโครงสร้างบ้านไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นในระหว่างที่คุณกำลังวางแปลนบ้านควรจะมีจำนวนห้องมากพอรองรับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วย เพื่อรองรับสมาชิกที่อาจจะมีจำนวนมากขึ้นในอนาคต แต่ถ้าหากคุณมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด อาจจะลดขนาดลงมาให้เล็กลงสักหน่อยก็ได้
แสงสว่างไม่เพียงพอ
นอกจากแสงสว่างภายในห้องนั้นๆ ต้องเพียงพอต่อการมองเห็นแล้ว ตามจุดที่มีการใช้งานที่ต้องการแสงสว่าง ก็ควรมีแสงสว่างอย่างเพียงพอด้วย เช่น โต๊ะอ่านหนังสือ เป็นต้น อาจเลือกใช้ไฟแบบซ่อนหลอดไฟเพื่อตกแต่งห้องให้สวยงามก็ได้การสร้างบ้านให้แสงแดดได้ส่องเข้ามาถึงในจุดที่ทำให้บ้านสว่างก็ช่วยเพิ่มแสงสว่างในบ้าน และประหยัดไฟได้
ระบบปรับอากาศไม่ดี
ระบบปรับอากาศภายในบ้านเป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะไม่ได้หมายถึงความสบายเท่านั้น แต่ยังหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย หากเป็นไปได้ควรคำนวณทิศทางลม และความถ่ายเทของบ้านให้ดี เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านให้อยู่ในระดับปกติ ไม่ร้อนหรือไม่หนาวเย็นจนเกินไป อีกทั้งยังทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ทำงานหนักจนเกินไปด้วย
มีความอิสระมากจนเกินไป
เนื่องจากตอนนี้มีบ้านและคอนโดเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในเมืองที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ เป็นผลให้ผู้คนโหยหาธรรมชาติยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเห็นบ้านและคอนโดส่วนใหญ่ตกแต่งภายในด้วยกระจกใส บานหน้าต่าง มีส่วนเกิน และดูอิสระเสรีมากไป จนความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของตัวเองน้อยลง นอกจากนี้น้อยคนนักที่คิดเผื่อในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน อย่างเช่น ไฟไหม้ ขโมยเข้าบ้าน เป็นต้น
พื้นโล่งมาก
พื้นที่โล่งมากเกินไป ทำให้บ้านดูไม่สมดุล และเหลือเนื้อที่เกินความจำเป็นของบ้าน หากบ้านมีขนาดใหญ่เกินไป อาจเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ที่กลางห้อง หรือใช้พรมปูพื้นเข้ามาช่วย
