ระบบ Precast และ Prefab ก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่คิดค้นขึ้นมา พูดได้เลยว่า ธุรกิจการสร้างบ้านปัจจุบันถือได้ว่า ได้รับความนิยม และกระจายอย่างแพร่หลาย ทำให้การประยุกต์ หรือคิดค้นการสร้างบ้านแนวใหม่เริ่มมีมากขึ้น เพื่อบ้านออกมาประสิทธิภาพ และการสร้างที่ดีมากขึ้น การสร้างบ้าน มีการคาดการณ์ว่า ในอนาคตแนวโน้มธุรกิจก่อสร้างจะหันไปใช้ระบบสำเร็จรูปมากขึ้น เนื่องจากปัญหาแรงงานขาดแคลน และที่สำคัญเรื่องคุณภาพของแรงงานที่ขาดแคลน แรงงานอาจจะมี แต่คุณภาพของแรงงานจะไม่มี ผู้ประกอบการก็จะหันไปหาระบบที่มีการจัดการที่ดี เพราะเรื่องโครงสร้างถือเป็นเรื่องที่ใหญ่ ผนังร้าว สามารถซ่อมได้ แต่โครงสร้างถือว่าพลาดไม่ได้เลยครับ โครงสร้างบ้านจึงต้องมีความแข็งแรงก่อนเป็นอันดับแรก

ระบบ Precast และ Prefab

ระบบ Precast (พรีคาสท์)

เป็นระบบที่นำเอาชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปมาประกอบ หรือติดตั้งเป็นชิ้นงานเป็นบ้าน พรีคาสท์จะเป็นแผ่นคอนกรีตสำเร็จ  และเป็นที่นิยมกันมากในประเทศไทย ระบบ Precast (พรีคาสท์) รื้อชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปยังสามารถผลิตหรือหล่อสำเร็จได้ทั้งที่ไซต์ ซึ่งเรียกว่าแบบหล่อกับที่ (Site Cast) และหล่อจากโรงงาน (Plant Cast) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของลักษณะงานก่อสร้างเป็นหลัก หลักการสำคัญของบ้านพรีคาสท์คือ ไม่มีเสาและคาน แต่เป็นระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนักแทน ซึ่งผนังสำเร็จรูปก็ผลิตด้วยวิธีที่แตกต่างกันบางรายเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปธรรมดา บางรายเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปแบบแซนด์วิช เว้นช่องไว้สำหรับเทคอนกรีตเชื่อม เป็นต้น บ้านสำเร็จรูปแบบนี้จะใช้ส่วนประกอบที่ผลิตจากโรงงานซึ่งผลิตภายใต้สภาวะควบคุมที่แน่นหนา ซึ่งแตกต่างจากวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิมตรงที่แต่ละองค์ประกอบสร้างขึ้นในสถานที่จริง ส่วนประกอบเหล่านี้ผลิตขึ้นในโรงงานเฉพาะโดยใช้แม่พิมพ์และเทคนิคการหล่อขั้นสูง ด้วยการหล่อองค์ประกอบเหล่านี้ล่วงหน้า กระบวนการก่อสร้างจะมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้สูง ทำให้เสร็จเร็วขึ้นและควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น

บ้านพรีคาสท์ดียังไงสำหรับผู้บริโภค ?

การก่อสร้างมีคุณภาพสม่ำเสมอมาตรฐานเดียวกัน เพราะกระบวนการผลิตชิ้นงานคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปทุกขั้นตอนถูกควบคุมด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และระบบคอมพิวเตอร์ ผลก็คือ งานจะออกมาดีกว่า ไม่มีปัญหาอย่างเช่น ฉาบปูนไม่ดี กำแพงไม่เรียบ หรือเสาเอียง และโอกาสที่งานจะออกมาคุณภาพไม่ดีเหมือนการใช้แรงงานคนในบางโครงการจะเป็นไปได้น้อยกว่า

บ้าน Precast เป็นโครงสร้างที่อยู่อาศัยหรือพาณิชยกรรมที่สร้างโดยใช้คอนกรีตสำเร็จรูปหรือวัสดุสำเร็จรูปอื่น ๆ บ้านสำเร็จรูปใช้ส่วนประกอบที่ผลิตจากโรงงานซึ่งผลิตภายใต้สภาวะควบคุม ซึ่งแตกต่างจากวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิมตรงที่แต่ละองค์ประกอบสร้างขึ้นในสถานที่จริง ส่วนประกอบเหล่านี้ผลิตขึ้นในโรงงานเฉพาะโดยใช้แม่พิมพ์และเทคนิคการหล่อขั้นสูง ด้วยการหล่อองค์ประกอบเหล่านี้ล่วงหน้า กระบวนการก่อสร้างจะมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้สูง ทำให้เสร็จเร็วขึ้นและควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น

ข้อดีอย่างหนึ่งของบ้านสำเร็จรูปคือเวลาก่อสร้างที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากชิ้นส่วนสำเร็จรูปผลิตขึ้นนอกสถานที่ กระบวนการก่อสร้างจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้นและคาดการณ์ได้ ตัวอย่างเช่น ผนังสำเร็จรูปสามารถผลิตควบคู่ไปกับการเตรียมสถานที่ได้ ทำให้สามารถติดตั้งได้เร็วขึ้น ด้วยการวางแผนและการประสานงานที่เหมาะสม สามารถสร้างบ้านสำเร็จรูปได้ในเวลาเพียงเศษเสี้ยวของเวลาที่ใช้ในการก่อสร้างแบบดั้งเดิม

แม้ว่าบ้านสำเร็จรูปอาจต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการก่อสร้างแบบดั้งเดิม แต่ก็ช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้อย่างมาก การผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปนอกสถานที่ช่วยลดต้นทุนแรงงาน ลดการสูญเสียวัสดุ และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการก่อสร้าง นอกจากนี้ เวลาก่อสร้างที่สั้นลงยังช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ทำให้บ้านสำเร็จรูปเป็นทางเลือกที่ประหยัดสำหรับเจ้าของบ้านและผู้สร้าง

บ้านสำเร็จรูปนั้นขึ้นชื่อในด้านคุณภาพและความทนทานที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมของโรงงานที่มีการควบคุมทำให้มั่นใจได้ถึงการผลิตที่แม่นยำ ส่งผลให้ได้องค์ประกอบที่สม่ำเสมอและมีคุณภาพสูง การใช้คอนกรีตสำเร็จรูปยังช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร จะทำให้คงทนแข็งแรงแม้กระทั่งแผ่นดินไหว ชิ้นงานทุกชิ้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งมีค่าความแข็ง (Stiffness) สูงกว่าระบบเสาโครง และผนังก่ออิฐ จึงมีความคงทนแข็งแรง และใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักชั้นบนได้ (Load Bearing Wall) ด้วยลักษณะโครงสร้างดังกล่าวทำให้ทนต่อแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวได้มากกว่าการก่อสร้างแบบผนังก่ออิฐทั่วไป (ซึ่งไม่สามารถรับแรงกระแทก หรือแรงกระทบด้านข้างได้ดีเท่าพรีคาสท์คอนกรีต)

ช่วยป้องกันความร้อน มีค่าความเป็นฉนวนสูง จึงสามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกได้ดี แต่หากบ้านโดนแดดนาน ๆ ก็อาจเกิดการสะสมความร้อนได้เช่นกัน (ดูข้อจำกัดด้านล่าง)

มีความต้านทานไฟสูงกว่า เพราะคอนกรีตมีคุณสมบัติที่ทนไฟมากกว่ากำแพงก่ออิฐ หรือผนังก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป และมีส่วนช่วยป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงได้ด้วย ปกติแล้วคอนกรีตจะสามารถต้านทานไฟได้มากกว่า 2 ชั่วโมง ในขณะที่ผนังก่ออิฐฉาบปูนจะสามารถทนไฟได้ประมาณ 1 ชั่วโมง

ป้องกันเสียงรบกวน วัสดุคอนกรีตเป็นวัสดุที่มีความทึบเสียงมากกว่าวัสดุประเภทอิฐและไม้ จึงสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก หรือเสียงดังจากห้องข้างเคียงได้ดีกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน

ต้านทานการซึมน้ำสูง ทำให้สีพื้นผิวมีความคงทน สวยงาม และไม่เกิดเชื้อรา โดยปกติ เมื่อมีฝนตก ผนังคอนกรีตสามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดีกว่าอิฐซึ่งมีความพรุนสูงทำให้เมื่อมีน้ำ หรือฝนตก อิฐจะดูดซึมน้ำ หรือความชื้นเข้ามาที่ผนัง ทำให้อาจเกิดเชื้อรา หรือสีร่อนได้

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม รวมทั้งลดมลภาวะทางเสียง ฝุ่น เศษอิฐ เศษปูน ขยะจากคนงานก่อสร้าง และปัญหาการจราจรในสถานที่ก่อสร้างฃ

ประเภทของบ้าน Precast

บ้านเดี่ยว ( Single Family Home )

บ้านสำเร็จรูปหลังเดี่ยวเป็นโครงสร้างที่อยู่อาศัยที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละครอบครัว บ้านเหล่านี้ให้ประโยชน์เช่นเดียวกับการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปอื่น ๆ เช่น การก่อสร้างที่รวดเร็ว ความคุ้มค่า และคุณภาพของวัสดุที่สูง บ้านสำเร็จรูปแบบครอบครัวเดี่ยวสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการและความชอบเฉพาะของเจ้าของบ้านได้โดยอิสระครับ เจ้าของบ้านสามารถปรับแต่งได้ทุกจุดตามที่ต้องการ รวมถึงสามารถเลือกติดตั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าไปในบ้านได้อย่างดิสระด้วย เช่น หน้าต่างบานใหญ่ ประตูอัตโนมัติ ประตูรั้วหน้าบ้าน 

บ้านเดี่ยวที่มีหลายครอบครัว ( Multi Family Building )

อาคารสำเร็จรูปหลายครอบครัวได้รับการออกแบบเพื่อรองรับหลายครัวเรือนในโครงสร้างเดียว อาคารเหล่านี้มีตั้งแต่อพาร์ตเมนต์ไปจนถึงคอนโดมิเนียมครับ โครงสร้างสำเร็จรูปแบบนี้จะช่วยให้การพัฒนาอาคารหลายครอบครัวมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับที่อยู่อาศัยในเมือง โดยสามารถสร้างได้เร็วและติดตั้ง ก่อสร้างได้เร็วนั่นเองครับ

ตึกร้านค้าสำเร็จรูป ( Commercial Structures )

การก่อสร้างแบบหล่อสำเร็จรูปไม่ได้จำกัดเฉพาะอาคารที่อยู่อาศัยเท่านั้น อาคารพาณิชย์ เช่น สำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และโรงงานอุตสาหกรรม ก็ได้รับประโยชน์จากวิธีการก่อสร้างแบบหล่อสำเร็จเช่นกัน ความรวดเร็วในการก่อสร้าง ความทนทาน และความยืดหยุ่นในการออกแบบทำให้บ้านสำเร็จรูปเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วยครับ

บ้าน Precast ช่วยรักษ์โลกยังไงบ้าง

ช่วยลดขยะที่เกิดจากการก่อสร้างแล้วเหลือเศษขยะ

กระบวนการผลิตที่มีการควบคุมของชิ้นส่วนสำเร็จรูป ช่วยลดของเสียจากการก่อสร้างได้อย่างมาก โรงงานพรีคาสสามารถนำวัสดุส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงมั่นใจได้ว่าจะเกิดของเสียน้อยที่สุด นอกจากนี้ ความแม่นยำในการผลิตยังช่วยลดความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนในสถานที่ทำงาน และลดการสูญเสียวัสดุในระหว่างกระบวนการก่อสร้างได้อีกด้วย

มีรอยเท้าคาร์บอนที่ต่ำ

บ้านพรีคาสต์มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานและวัสดุที่ยั่งยืน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากพอสมควร การรวมวัสดุฉนวนเข้าด้วยกันช่วยลดพลังงานที่จำเป็นสำหรับการทำความร้อนและความเย็น ส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง นอกจากนี้ การใช้คอนกรีตสำเร็จรูปซึ่งมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ประหยัดพลังงานและใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติในการสร้าง

บ้านสำเร็จรูปมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่เหนือกว่า ด้วยการรวมวัสดุฉนวนเข้ากับชิ้นส่วนสำเร็จรูปของบ้าน ทำให้การสูญเสียความร้อนลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การใช้พลังงานลดลงสำหรับการควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน นอกจากนี้ บ้านสำเร็จรูปสามารถสร้างโดยใช้วัสดุที่ยั่งยืน ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นไปอีกครับ

 

ระบบ Precast และ Prefab

ระบบ Precast และ Prefab

Prefab (พรีแฟบ)

มาจาก Prefabricated Building   เป็นวิธีการก่อสร้างบ้านหรืออาคารโดย “ผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้นให้สำเร็จก่อนจะนำมาประกอบกันที่หน้างาน” วิธีการแบบนี้เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่างพฤกษา เรียลเอสเตท เป็นหัวขบวนนำระบบพรีแฟบ เข้ามาสร้างอาคาร และหมู่บ้านจัดสรร ด้วยวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อลดต้นทุนเวลาและแรงงานเป็นสำคัญ ถือเป็นผนังสำเร็จรูป คือการเทหล่อชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กในแบบหล่อ แล้วยกเป็นผนังทีละชิ้นมาประกอบเป็นอาคาร โดยใช้ผนังเป็น “ผนังรับน้ำหนัก” (Loaded Bearing Walls) แทนระบบเสาคาน หรือบางรายเลือกใช้เป็นแค่เพียง “ส่วนผนัง” ร่วมกับระบบเสาคาน

โดยแนวคิด PREFAB เริ่มจากปัญหาของค่าแรงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และการขาดแคลนแรงงานฝีมือที่ไหลออก จากภาคการก่อสร้างทำให้มาตรฐานและคุณภาพงานด้อยลง นักออกแบบจึงเริ่มคิดวิธีการก่อสร้างรูปแบบ PREFAB ขึ้นมาหลากหลายวิธี ขึ้นกับโจทย์ของผู้พัฒนาอสังหาฯ แต่ละราย และการก่อสร้างระบบ PREFAB ยังแบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆ เป็นระบบการก่อสร้างที่แยกงานออกเป็นระบบย่อย ผลิตนอกไซต์ก่อสร้างแล้วนำมาประกอบขึ้นที่ไซต์ในภายหลัง โดยระบบนี้ไม่จำกัดว่าจะเป็นวัสดุประเภทใด แต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้หรือเหล็กเ มื่อเปรียบเทียบบ้านพรีคาสท์ทั้งสองแบบ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าบ้านหล่อกับที่จะเทคอนกรีตเป็นเนื้อเดียวกัน จึงมีความแข็งกว่าพรีคาสท์หล่อจากโรงงาน แต่แบบหลังจะได้ประโยชน์เรื่องความเร็วและการควบคุมชิ้นงานได้ดีกว่า

ประเภทต่าง ๆ ของบ้าน Prefab

บ้านแบบโมดูลลาร์ ( Modular Home )

บ้านโมดูลาร์ประกอบด้วยโมดูลที่สร้างไว้ล่วงหน้าหลายโมดูลซึ่งผลิตในโรงงานแล้วขนส่งไปยังไซต์เพื่อประกอบ โมดูลเหล่านี้มักมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและสามารถรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างขึ้นเป็นบ้าน บ้านโมดูลาร์จะมีความยืดหยุ่นในการออกแบบและสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคลได้อย่างอิสระครับ

 

บ้านแบบสำเร็จรูป ( Panelized Home )

บ้านลักษณะนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยใช้แผงที่ผลิตจากโรงงานซึ่งประกอบขึ้นในสถานที่ ซึ่งแผงเหล่านี้รวมถึงผนัง พื้น และหลังคา ที่จะถูกผลิตนอกสถานที่และจัดส่งไปยังสถานที่เพื่อการประกอบบ้านที่รวดเร็ว บ้านแบบนี้จะให้ความสมดุลระหว่างตัวเลือกการปรับแต่งและความคุ้มค่า

 

บ้านสำเร็จรูปที่ประกอบมาแล้ว ( Manufactured Home )

บ้านสำเร็จรูป หรือที่เรียกว่าบ้านเคลื่อนที่ บ้านแบบนี้จะถูกสร้างขึ้นในโรงงานทั้งหมดแล้วขนส่งไปยังสถานที่ที่ต้องการ บ้านเหล่านี้สร้างบนโครงแบบถาวร ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย บ้านสำเร็จรูปเป็นที่อยู่อาศัยที่มีราคาย่อมเยาและสามารถย้ายได้ตลอดถ้าหากจำเป็น

 

ข้อดีของบ้าน Prefab

คุ้มค่าคุ้มราคา

บ้านสำเร็จรูปมักจะมีราคาที่ถูกกว่าบ้านแบบดั้งเดิม สภาพแวดล้อมของโรงงานที่มีการควบคุมช่วยให้สามารถจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นและลดความล่าช้าในการก่อสร้างได้ นอกจากนี้ การใช้ส่วนประกอบและวัสดุที่ได้มาตรฐานยังช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้อีกครับ

 

ประหยัดเวลาในการประกอบติดตั้ง

กระบวนการก่อสร้างนอกสถานที่ของบ้านสำเร็จรูปช่วยให้เสร็จเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม เนื่องจากการก่อสร้างส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของโรงงานที่มีการควบคุม ปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศและความล่าช้าในสถานที่ทำงานจึงลดลง ส่งผลให้ระยะเวลาโครงการสั้นลง ทำให้เจ้าของบ้านสามารถย้ายเข้าบ้านใหม่ได้เร็วขึ้น

 

มีตัวเลือกในการปรับแต่งบ้านที่อิสระมาก ๆ 

คนทั่วไปมักจะเข้าใจผิดว่า บ้านสำเร็จรุปนั้นไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เลย แต่ผิดครับ บ้านสำเร็จรูปมีตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย เจ้าของบ้านสามารถเลือกจากการออกแบบ การจัดวาง การตกแต่ง และวัสดุต่าง ๆ เพื่อปรับแต่งบ้านของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยหรือแบบดั้งเดิม บ้านสำเร็จรูปสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความชอบและความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างอิสระเลยครับผม